บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google กำลังซุ่มพัฒนาไอเดียสิ่งประดิษฐ์ที่หลายคนมองว่าประหลาด แถมจดสิทธิบัตรไว้อีกต่างหาก
Google บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ (ปัจจุบันอยู่ภายใต้ชื่อบริษัทแม่ Alphabet) เป็นบริษัทที่มีรวบรวมโปรเจ็กสุดล้ำและแสนจะทะเยอะทะยาน โดยโปรเจ็กย่อยทั้งหมดถูกเรียกว่าโครงการ “Moonshot” วันนี้เราจะพาคุณไปขุดค้นสิทธิบัตรของ Google ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกนำมาใช้จริง และพัฒนาต่อไปในอนาคต
1. ตุ๊กตาดักฟัง
ไอเดียอันสุดเพี้ยนของกูเกิ้ลที่เปลี่ยนตุ๊กตาเท็ดดี้แบร์แสนน่ารักให้กลายเป็นอุปกรณ์ดักฟังสายลับ โดยสิทธิบัตรที่จดในปี 2012 ตัวนี้มาพร้อมแนวคิดในการติดตั้งกล้อง ลำโพง และไมค์เข้าด้วยกัน เพื่อที่จะฟังบทสนทนาและจับจ้องความเคลื่อนไหวของคุณ เราเดาว่ามันคงใช้สำหรับการสอดส่องดูแลเด็กๆ จากพ่อแม่ที่ต้องอยู่ไกลจากลูกๆ ของพวกเขาแหละ แต่กูเกิ้ลเองก็ไม่ได้ออกมาพูดถึงความตั้งใจในการจดสิทธิบัตรตัวนี้ เลยทำให้มันดูน่าขนลุกจริงๆ ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร
2. แว่นตาฝังในดวงตา
บอกลาแว่นตาและเลสิก สิทธิบัตรที่กูเกิ้ลจดไปเมื่อปี 2014 ชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการมองเห็นโดยไม่ต้องอาศัยคอนแทคเลนส์ หรือแว่นตา แต่ผู้ใช้ต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อให้หมอติดตั้งอุปกรณ์ที่เรียกว่า “intra-ocular device” เข้าไปในลูกตาของคุณ โดยมันจะทำงานผ่านสิ่งที่เรียกว่า Lens – Capsule ทำให้ดวงตาของคุณสามารถมองเห็นวัตถุได้ชัดทั้งใกล้และไกล โดยไม่ต้องใส่แว่นตา
3. สมาร์ทวอช สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
สิทธิบัตร Smartwatch ในปี 2014 ของกูเกิ้ลที่ถ้าหากว่าสามารถทำได้จริง มันจะทำให้คุณสามารถตรวจเลือดโดยไม่ต้องอาศัยการเจาะเลือด มันคือนาฬิกาอัจฉริยะที่จะทำให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถตรวจสอบระดับน้ำตาลของพวกเขาได้ดีกว่าเดิม โดยอุปกรณ์นี้ส่งแก๊สเข้าไปในผิวหนังและจะดึงเอาอนุภาคขนาดเล็กของเลือดเข้ามาเก็บไว้ในถังเพื่อวิเคราะห์ระดับน้ำตาลต่อไป
4. โดรนส่งของ
กูเกิ้ลยังมีสิทธิบัตรเกี่ยวกับการจัดส่งพัสดุ โดยโดรนและหุ่นยนตร์ หลายๆ คนคงรู้จักโปรเจ็ก “Google Project Wings” บริการขนส่งพัสดุโดยโดรนของกูเกิ้ล สิทธิบัตรนี้ถูกจดขึ้นในปี 2014 ในรายละเอียดยังระบุว่าโดรนจะสามารถบินลงมาส่งของให้หุ่นยนต์ที่อยู่บนภาคพื้นดิน เพื่อจัดส่งไปยังที่หมายได้โดยปลอดภัยอีกด้วย
5. คีย์บอร์ด AR
สงสัยได้แรงบันดาลใจจากหนังสตาร์เทรค สิทธิบัตรตัวนี้ของกูเกิ้ลจดเมื่อปี 2011 มันคือแว่นตาที่สามารถฉายคีย์บอร์ดไปบนแขนของผู้ใช้ และสามารถกดแป้นพิมพ์นั้นได้โดยตรง แต่ก็น่าเสียดายที่กูเกิ้ลให้ความสำคัญกับบริษัทลูกอย่าง Magic Leap ที่มุ่งเน้นการพัฒนางานโฮโลแกรมโดยตรง และเมื่อพัฒนาเทคโนโลยีโฮโลแกรมให้ก้าวล้ำ สิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีอย่าง AR ก็คงไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่
6. รอยสักอัจฉริยะ
สิทธิบัตรที่คงจะถูกใจเหล่าคนชอบศิลปะบนเรือนร่างหรือการสัก โดยการจดสิทธิบัตรนี้เกิดขึ้นในปี 2012 มันคือการฝังไมโครโฟนและเครื่องจับเท็จไปบนรอยสักของคุณ และเชื่อมต่อเข้ากับโทรศัพท์ เพื่อใช้ไมโครโฟนที่อยู่บนรอยสักพูดคุยได้โดยที่ไม่ต้องแนบโทรศัพท์ไปกับแก้มของคุณ แต่มันก็ออกจะน่าขนลุกเพราะมันจะสามารถตรวจจับการสั่นสะเทือนของผิวหนังเพื่อตรวจสอบได้ว่าคุณกำลังโกหกอยู่หรือไม่
7. เครื่องพ่นน้ำหอมแบบพกพา
อีกสิทธิบัตรประหลาดๆ ของกูเกิ้ล คือพัดลมที่จะช่วยทำให้เพื่อนๆ ไม่เหม็นกลิ่นตัวของคุณ ฟังดูเพี้ยนๆ แต่สิทธิบัตรนี้ถูกจดในปี 2012 เช่นกัน มันคือพัดลมพกพาที่จะแนบไปกับร่างกายของคุณ และสามารถพ่นสเปรย์ที่มีกลิ่นหอมออกมาเมื่อตรวจพบว่ามีเพื่อนของคุณอยู่ใกล้ๆ ตัวคุณ โดยมันจะเชื่อมต่อกับข้อมูลการติดต่อของเพื่อนๆ คุณจะรู้ตำแหน่งของเพื่อนๆและสามารถทราบเส้นทางที่จะหลีกเลี่ยงเพื่อนของคุณได้ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ฟังก์ชั่นการพ่นกลิ่นมีไว้เพื่อใช้โอกาสนี้
รูปภาพและข้อมูลจาก www.businessinsider.com
ถ้าคุณได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมา อย่าได้คิดว่ามันแปลกเกินไปที่จะจดสิทธิบัตร เพราะขนาดกูเกิ้ลคิดไอเดียประหลาดๆขึ้นมา ก็ยังจดสิทธิบัตรไว้ก่อน การจดสิทธิบัตรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากผลงานได้แพร่หลายออกไป ในกรณีที่เกิดการลอกเลียนแบบหรือนำไปพัฒนาต่อยอด จะสามารถฟ้องร้องเอาผิด เรียกร้องค่าเสียหายได้หากคุณได้จดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรในผลงานของคุณไว้ก่อน
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาเรื่องการยื่นขอจดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า วิธีการสืบค้นข้อมูลการจดทะเบียนสิทธิบัตรของไทย และขอคำแนะนำกรณีมีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ได้ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม (IP IDE Center) ชั้น 4 กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. หรือทางสายด่วน 1368 , www.facebook.com/ipidethailand/